ข่าวสารและบทความ

Machine Learning คืออะไร อ่านต่อ

Machine Learning คืออะไร? พร้อมตัวอย่างการใช้งานฉบับเข้าใจง่าย

ตุลาคม 24, 2025

  เคยสงสัยไหมว่าทำไม Netflix ถึงแนะนำหนังเรื่องโปรดให้คุณได้อย่างแม่นยำ หรือทำไม Facebook ถึงแสดงโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของคุณ? เบื้องหลังความสามารถอันน่าทึ่งเหล่านี้คือเทคโนโลยีที่เรียกว่า Machine Learning ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น ในบทความนี้ Ditto จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Machine Learning คืออะไร พร้อมตัวอย่างการใช้งานที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าเทคโนโลยีนี้ใกล้ตัวกว่าที่คิด 

Machine Learning คืออะไร 

Machine Learning คือสาขาย่อยหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เน้นการพัฒนาอัลกอริทึมและโมเดลทางสถิติเพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ และปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานบางอย่างได้ด้วยตนเองจากข้อมูลและประสบการณ์ โดยไม่จำเป็นต้องถูกตั้งโปรแกรมสั่งงานอย่างชัดเจนในทุกขั้นตอน พูดง่าย ๆ ก็คือการสอนให้คอมพิวเตอร์ฉลาดขึ้นจากการดูตัวอย่างจำนวนมากนั่นเอง  หัวใจสำคัญของ Machine Learning คือการใช้ Big Data ฝึกฝนโมเดลให้สามารถจดจำรูปแบบ (Pattern) ความสัมพันธ์ และแนวโน้มที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลเหล่านั้นได้ เมื่อโมเดลเรียนรู้แล้ว มันจะสามารถนำความเข้าใจที่ได้ไปใช้ในการตัดสินใจ คาดการณ์หรือจำแนกสิ่งต่าง ๆ กับข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำการวิเคราะห์ข้อมูลในปัจจุบัน และยังเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง Generative AI ที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่... read more

Generative AI คืออะไร อ่านต่อ

Generative AI คืออะไร? รู้จักเทคโนโลยี AI เปลี่ยนโลก พร้อมตัวอย่างการใช้งาน

ตุลาคม 24, 2025

  เคยจินตนาการไหมว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ แต่งเพลงหรือแม้แต่เขียนบทความที่เรากำลังอ่านอยู่นี้ได้? เพราะวันนี้สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Generative AI ซึ่งกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างรวดเร็วในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นวงการธุรกิจ การศึกษา หรือแม้แต่ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ในบทความนี้ Ditto จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Generative AI คืออะไร และมันจะเข้ามาเปลี่ยนโลกและธุรกิจของคุณได้อย่างไร  

Generative AI คืออะไร 

Generative AI คือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ประเภทหนึ่งที่มีความสามารถในการสร้างข้อมูลใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอหรือแม้กระทั่งโค้ดคอมพิวเตอร์ โดย AI ประเภทนี้จะเรียนรู้จาก Big Data เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบและความสัมพันธ์ของข้อมูล จากนั้นจึงนำสิ่งที่เรียนรู้มาสร้างสรรค์ผลลัพธ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีอยู่มาก่อน แต่ยังคงความสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับต้นฉบับอยู่   

Generative AI ต่างจาก AI อย่างไร 

หลายคนอาจคุ้นเคยกับ... read more

Dashboard คืออะไร อ่านต่อ

Dashboard คืออะไร ช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณได้อย่างไร

ตุลาคม 17, 2025

  ปัจจุบันข้อมูลมีค่าดั่งทองคำ เพราะฉะนั้นการตัดสินใจทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven) จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่กลับเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ แต่เคยไหมที่ต้องจมอยู่กับกองข้อมูลมหึมาในรูปแบบตารางที่ซับซ้อนและรายงานที่ยาวเหยียด? กว่าจะวิเคราะห์และทำความเข้าใจก็เสียทั้งเวลาและโอกาสทางธุรกิจไปแล้ว บทความนี้ Ditto จะพาคุณไปรู้จักกับ Dashboard เครื่องมือที่จะเข้ามาปฏิวัติการทำงานกับข้อมูลของคุณให้กลายเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส มาดูกันว่า Dashboard คืออะไร และจะช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณให้ดีขึ้นได้อย่างไร  

Dashboard คืออะไร 

Dashboard คือเครื่องมือที่ใช้นำเสนอข้อมูลสำคัญในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Database หรือระบบอื่น ๆ มาแสดงผลในหน้าเดียวผ่านกราฟ แผนภูมิ ตารางและตัวชี้วัดสำคัญ (KPIs) ต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดตาม วิเคราะห์และทำความเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น   

Dashboard มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งประเภทของ Dashboard ตามวัตถุประสงค์การใช้งานหลัก ๆ ได้ 4 ประเภท ดังนี้      

Strategic Dashboard 

Strategic Dashboard เพื่อใช้ติดตามภาพรวมและเป้าหมายระยะยาวขององค์กร โดยเน้นการแสดงผลตัวชี้วัดผลการดำเนินงานหลัก (KPIs) ที่สำคัญที่สุด... read more

ต้นไม้ช่วยเพิ่มมูลค่าองค์กรด้วยคาร์บอนเครดิต อ่านต่อ

รู้จักต้นไม้ 58 ชนิด ช่วยเพิ่มมูลค่าองค์กรด้วยคาร์บอนเครดิต

ตุลาคม 17, 2025

  นอกจากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและสร้างรายได้เพิ่มเติมคือการเข้าร่วมโครงการ คาร์บอนเครดิต จากป่าไม้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องนี้ พร้อมแนะนำ ต้นไม้ 58 ชนิด ที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างคาร์บอนเครดิตได้จริง

คาร์บอนเครดิตจากป่าไม้คืออะไร และทำไมองค์กรควรสนใจ?

คาร์บอนเครดิต คือใบรับรองที่แสดงถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกลดหรือดูดซับออกจากชั้นบรรยากาศ ซึ่งองค์กรสามารถนำมาขายหรือใช้ในการชดเชยการปล่อยคาร์บอนของตนเองได้

บทบาทของป่าไม้ในการดูดซับคาร์บอนและสร้างคาร์บอนเครดิต

ป่าไม้ถือเป็น "ปอด" ของโลกที่มีความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการสังเคราะห์แสง ยิ่งป่ามีขนาดใหญ่และสมบูรณ์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถดูดซับคาร์บอนได้มากเท่านั้น ซึ่งปริมาณคาร์บอนที่ดูดซับได้นี้เองที่สามารถเปลี่ยนเป็น คาร์บอนเครดิต ได้

ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการคาร์บอนเครดิตป่าไม้

สร้างรายได้: การขายคาร์บอนเครดิตเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ให้กับองค์กร ภาพลักษณ์องค์กรที่ดี: ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม บรรลุเป้าหมายความยั่งยืน: ช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์  

ทำความรู้จักต้นไม้ 58 ชนิด สร้างโอกาสใหม่ให้องค์กร

ตามประกาศของกรมป่าไม้ เรื่อง กำหนดชนิดไม้ป่าที่จะปลูกในพื้นที่ป่าเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต มีการระบุรายชื่อ ต้นไม้ 58 ชนิด ที่สามารถนำไปใช้ในการคำนวณคาร์บอนเครดิตได้ ซึ่งต้นไม้เหล่านี้เป็นพันธุ์ไม้ที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตและดูดซับคาร์บอนได้ดี เหมาะสำหรับการปลูกเพื่อสร้างคาร์บอนเครดิต ซึ่งการเลือกชนิดของต้นไม้ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ของโครงการมีความสำคัญอย่างยิ่ง รายชื่อต้นไม้ป่า 58 ชนิด ได้แก่: กระถินเทพา กระถินณรงค์ กระพี้เขาควาย ... read more

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรคืออะไร อ่านต่อ

กลยุทธ์ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เส้นทางสู่องค์กรสีเขียวและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตุลาคม 10, 2025

  ในยุคที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม การลด คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์ แต่เป็นภารกิจสำคัญของทุกองค์กรในการสร้างความยั่งยืน บทความนี้จะนำเสนอแนวทางและกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรคืออะไร และทำไมต้องลด?

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ คือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงาน การผลิตสินค้า หรือการขนส่ง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะโลกร้อน

เข้าใจที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ

แหล่งที่มาหลักของการปล่อยคาร์บอนในองค์กรแบ่งได้เป็น 3 Scope ได้แก่: Scope 1: การปล่อยโดยตรงจากแหล่งกำเนิดที่องค์กรเป็นเจ้าของหรือควบคุม เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงในยานพาหนะของบริษัท Scope 2: การปล่อยทางอ้อมจากการผลิตพลังงานที่องค์กรซื้อมาใช้ เช่น ไฟฟ้าและความร้อน Scope 3: การปล่อยทางอ้อมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการใช้งานและทิ้งผลิตภัณฑ์

ประโยชน์ทางธุรกิจจากการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไม่ได้เป็นแค่การทำเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีประโยชน์ทางธุรกิจมากมาย เช่น: ภาพลักษณ์องค์กร: สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ดึงดูดลูกค้าและนักลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การประหยัดต้นทุน: การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากรช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว การปฏิบัติตามกฎหมาย: เตรียมความพร้อมสำหรับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต

3 กลยุทธ์หลักในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กร

การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน

เริ่มต้นจากการประเมินและลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นในสำนักงานหรือโรงงาน เช่น การเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน และที่สำคัญคือการพิจารณาลงทุนใน พลังงานสะอาด อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop)... read more

การทำงานแบบ Agile คืออะไร อ่านต่อ

ทำงานแบบ Agile คืออะไร? สำคัญอย่างไรกับการเติบโตขององค์กร

ตุลาคม 10, 2025

  ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน องค์กรต่างๆ กำลังมองหาวิธีการทำงานที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืนคือ "Agile" หรือการทำงานแบบคล่องตัว บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Agile คืออะไร มีหลักการสำคัญอย่างไร และเหตุใดจึงยังมีความสำคัญต่อการเติบโตขององค์กรในปัจจุบัน

ทำไม Agile ถึงสำคัญกับการเติบโตขององค์กร

การทำงานแบบ Agile ไม่ใช่แค่แนวคิดใหม่ๆ แต่เป็นปรัชญาที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน การนำ Agile มาใช้ส่งผลดีต่อการเติบโตขององค์กรในหลายมิติ

การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว

ในยุคที่เทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว องค์กรที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทันอาจต้องเผชิญกับความท้าทาย Agile ส่งเสริมให้ทีมงานสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ยึดติดกับแผนการที่ตายตัว แต่พร้อมปรับเปลี่ยนทิศทางเมื่อมีข้อมูลใหม่ ๆ หรือความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไป ทำให้องค์กรสามารถคว้าโอกาสและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ทันท่วงที

เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น

Agile เน้นการทำงานเป็นรอบสั้น ๆ ที่เรียกว่า "Sprint" หรือ "Iteration" ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถส่งมอบผลงานได้บ่อยขึ้นและเห็นความคืบหน้าได้อย่างชัดเจน การแบ่งงานออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ทำให้จัดการได้ง่ายขึ้น ลดความซับซ้อน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับปรุงแก้ไข นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและการสื่อสารที่เปิดเผยยังช่วยให้กระบวนการทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการมีระบบจัดการเอกสารที่ดีอย่าง Document Management System (DMS) จะเข้ามาช่วยเสริมความคล่องตัวของ Agile... read more

โครงสร้างองค์กร ที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ อ่านต่อ

ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดด้วย โครงสร้างองค์กร ที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ

ตุลาคม 3, 2025

  ทำความเข้าใจถึง โครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ การมีโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจนจะช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมไขข้อสงสัยว่า โครงสร้างองค์กร มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับธุรกิจประเภทใด และประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการจัด โครงสร้างองค์กร ที่ดี  

โครงสร้างองค์กร คืออะไร?

โครงสร้างองค์กร คือ แผนภาพหรือแผนผังที่แสดงให้เห็นถึงการจัดระเบียบของบุคลากร หน้าที่ความรับผิดชอบ และสายการบังคับบัญชาภายในองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ สร้างความชัดเจนในการทำงาน และทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ   Call Line Call Line  

ความสำคัญของโครงสร้างองค์กร

การมี โครงสร้างองค์กร ที่ดีมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมาย เพราะช่วยในหลายด้าน ได้แก่: กำหนดสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน: ทุกคนในองค์กรจะรู้ว่าต้องรายงานใคร และใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจในแต่ละเรื่อง แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย/บุคคล: ป้องกันความซ้ำซ้อนและสร้างความชัดเจนในบทบาท เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน: ข้อมูลไหลเวียนอย่างราบรื่น ลดความเข้าใจผิด... read more

Data Driven Decision Making คืออะไร? 10 ประโยชน์ที่ธุรกิจคุณต้องรู้ อ่านต่อ

Data Driven Decision Making คืออะไร? 10 ประโยชน์ที่ธุรกิจคุณต้องรู้!

ตุลาคม 3, 2025

  ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ธุรกิจที่ต้องการก้าวหน้าและแข่งขันได้จำเป็นต้องมีมากกว่าแค่สัญชาตญาณ การตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็วคือหัวใจสำคัญ และนี่คือที่มาของ Data Driven Decision Making (DDDM) หรือการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณมองเห็นโอกาส, แก้ไขปัญหา, และเติบโตได้อย่างยั่งยืน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 10 ประโยชน์สำคัญของการนำ DDDM มาใช้ในธุรกิจของคุณ  

ทำไม Data Driven Decision Making จึงสำคัญกับธุรกิจปัจจุบัน?

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ข้อมูลคือเข็มทิศนำทางที่แม่นยำที่สุด ธุรกิจที่พึ่งพาสัญชาตญาณหรือประสบการณ์เดิมเพียงอย่างเดียวอาจพลาดโอกาสสำคัญหรือตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย การมีข้อมูลที่ถูกต้องและนำมาวิเคราะห์อย่างชาญฉลาด ทำให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส มีหลักฐานรองรับ และสามารถปรับตัวได้ทันท่วงที นี่คือรากฐานสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของคุณแข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต การจะไปสู่จุดนั้นได้ การ Digital Transformation จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนองค์กรให้พร้อมรับมือกับยุคดิจิทัล โดยมีข้อมูลเป็นแกนกลางของการเปลี่ยนแปลง    

10 ประโยชน์ของการทำ Data Driven Decision Making

1. การตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็ว

การตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลช่วยลดความเสี่ยงจากการคาดเดาหรืออคติส่วนตัว คุณจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง และยังสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ที่ต้องการความคล่องตัว

ลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

เมื่อการตัดสินใจมาจากข้อมูลเชิงลึก ธุรกิจจะสามารถประเมินความเสี่ยงได้ดีขึ้น ทำให้การดำเนินงานมีความผิดพลาดน้อยลงและลดโอกาสเกิดความเสียหาย

2. เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

ข้อมูลช่วยให้คุณมองเห็นกระบวนการทำงานทั้งหมด... read more

เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเก็บกี่ปี อ่านต่อ

ระยะเวลาจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเก็บกี่ปี และเก็บอย่างไรให้ถูกต้อง

กันยายน 26, 2025

  ธุรกิจมักขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ยิ่งทำมานานเท่าไหร่ ข้อมูลก็ยิ่งเยอะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น การจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ให้ถูกต้องตามกฎหมายและมีประสิทธิภาพกลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว โดยเฉพาะระยะเวลาในการจัดเก็บเอกสาร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเก็บกี่ปี ถึงจะถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับ และมีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยให้การจัดเก็บเป็นไปอย่างมีระบบ ปลอดภัยและสามารถนำกลับมาใช้งานได้สะดวก บทความนี้ Ditto จะพาคุณไปหาคำตอบ เพื่อให้ธุรกิจของคุณมั่นใจได้ว่าการจัดเก็บเอกสารเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่มีความเสี่ยงทางกฎหมาย และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย    

ระยะเวลาจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย ต้องเก็บกี่ปี?

การกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นอยู่กับประเภทของเอกสารและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีข้อกำหนดแตกต่างกันไปในแต่ละหมวดหมู่ เพื่อให้ธุรกิจปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง เราได้สรุปประเภทเอกสาร และระยะเวลาจัดเก็บที่สำคัญมาให้ดังนี้    

เอกสารด้านบัญชีและภาษี 

เอกสารกลุ่มนี้เป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจ และมีกฎหมายกำหนดระยะเวลาจัดเก็บอย่างชัดเจน เช่น ใบกำกับภาษี, ใบเสร็จรับเงิน, รายงานภาษีซื้อ-ภาษีขาย ควรจัดเก็บอย่างน้อย 5 ปี นับจากวันยื่นภาษี หรือตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนด ซึ่งอาจขยายระยะเวลาได้ถึง 7 - 10 ปี ในบางกรณี สมุดบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชี ต้องจัดเก็บไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันปิดบัญชีหรือจนกว่าจะมีการตรวจสอบและรับรองบัญชี  

เอกสารด้านทรัพยากรบุคคล (HR)

เอกสารที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเป็นสิ่งจำเป็นในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล และมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตาม ได้แก่ ประวัติพนักงาน, สัญญาจ้าง,... read more

Market Analysis คืออะไร อ่านต่อ

Market Analysis คืออะไร? มีขั้นตอนอย่างไรบ้างให้นักการตลาดทำตามได้จริง

กันยายน 26, 2025

ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลที่ถูกต้องกลายเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ และหนึ่งในกระบวนการที่ช่วยให้นักการตลาดมองเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนที่สุดก็คือ Market Analysis หรือการวิเคราะห์ตลาด ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ คู่แข่ง กลุ่มเป้าหมายและโอกาสใหม่ ๆ ที่จะทำให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ได้ตรงจุดและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง ดังนั้น ในบทความนี้ Ditto จะพาคุณไปดูกันว่า การวิเคราะห์ตลาด คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร พร้อมเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานนี้ง่ายขึ้น จะมีอะไรบ้าง  

Market Analysis คืออะไร

Market Analysis คือกระบวนการรวบรวม วิเคราะห์และตีความข้อมูลเกี่ยวกับตลาดที่คุณดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งรวมถึงขนาดตลาด ศักยภาพการเติบโต แนวโน้มของอุตสาหกรรม พฤติกรรมผู้บริโภค คู่แข่งและปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ตลาดนี้ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ระบุความเสี่ยงและวางแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

ทำไมการทำ Market Analysis จึงสำคัญต่อธุรกิจในยุคดิจิทัล

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลเวียนอย่างรวดเร็ว การทำ Market Analysis ไม่ใช่แค่เรื่องของการรู้จักลูกค้า แต่ยังเป็นการเข้าใจภาพรวมของทางธุรกิจทั้งหมดด้วย  เพิ่มโอกาสทางการตลาด การวิเคราะห์ตลาดจะช่วยให้คุณเห็นช่องว่าง ที่ยังไม่มีใครเข้าไปจับจอง เช่น ความต้องการของลูกค้าบางกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง หรือปัญหาที่ผู้บริโภคยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด  ลดความเสี่ยง... read more

อ่านต่อ

ดิทโต้ติดตั้งระบบไดร์ฟทรูให้ร้าน Cha Tra Mue – ชาตรามือ สาขา Little Walk รามคำแหง

กันยายน 25, 2025

ดิทโต้ติดตั้งระบบไดร์ฟทรูให้ร้าน Cha Tra Mue - ชาตรามือ สาขา Little Walk รามคำแหง

    ขอแสดงความยินดีกับร้าน Cha Tra Mue - ชาตรามือ สาขา Little Walk รามคำแหง ที่ได้เปิดให้บริการ พร้อมช่องทาง Drive-Thru ขยายให้บริการความอร่อยแบบสดใหม่ได้รวดเร็วทันใจยิ่งกว่าเดิม DITTO ภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของชาตรามือ ให้ดูแลระบบสำคัญที่ช่วยให้ทุกออเดอร์ของท่านไหลลื่น ไม่มีสะดุด ด้วยระบบ POS, Kitchen Printer และ Kitchen Display ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แวะมาอิ่มอร่อยกับเมนูโปรดของคุณได้ทุกเวลาได้ที่ พิกัด https://maps.app.goo.gl/AYkfsg8jJj2thhsR8?g_st=il ให้ DITTO เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความสำเร็จและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของคุณ  

สนใจสินค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

📞  0-2517-5555 062 596 1872 https://dittothailand.com/contact-us/ Line ID: @dittothailand     read more

ยื่นภาษีล่าช้า ลืมยื่นภาษี ทำอย่างไร อ่านต่อ

ยื่นภาษีล่าช้า ลืมยื่นภาษี ทำอย่างไร? สรุปครบทุกขั้นตอน พร้อมวิธีคำนวณค่าปรับ

กันยายน 19, 2025

  การยื่นภาษีเป็นหน้าที่สำคัญ ไม่ใช่แค่สำหรับบุคคลธรรมดา แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจและกิจการก็เช่นกัน การบริหารจัดการภาษีอย่างถูกต้องและตรงเวลาเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ราบรื่น แต่บางครั้งด้วยความยุ่งเหยิงของการบริหารจัดการ หรือการละเลยเล็กน้อย อาจทำให้กิจการของคุณลืมยื่นภาษี หรือยื่นล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของค่าปรับ แต่ยังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและสถานะทางกฎหมายของธุรกิจคุณโดยตรง ในบทความนี้ Ditto จะสรุปขั้นตอนการดำเนินการเมื่อกิจการของคุณยื่นภาษีล่าช้า พร้อมวิธีคำนวณค่าปรับ เพื่อให้เจ้าของธุรกิจอย่างคุณสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและถูกต้อง   

จะเกิดอะไรขึ้น หากยื่นภาษีไม่ทันตามกำหนด? 

เมื่อคุณลืมยื่นภาษี หรือยื่นแบบล่าช้ากว่ากำหนด สิ่งที่ต้องเผชิญ คือผลทางกฎหมายและภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งประกอบด้วย เงินเพิ่ม กรมสรรพากรจะคิดเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (เศษของเดือนคิดเป็นหนึ่งเดือน) ของเงินภาษีที่ต้องชำระ นับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดจนถึงวันที่ชำระครบถ้วน ซึ่งอาจเป็นภาระทางการเงินที่สูงสำหรับธุรกิจ ค่าปรับอาญา มีตั้งแต่ 200 บาท ไปจนถึงสูงสุด 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทภาษีและความรุนแรงของการกระทำความผิด เบี้ยปรับ หากตรวจพบว่ามีการแจ้งข้อมูลเท็จ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี กิจการอาจถูกเรียกเก็บเบี้ยปรับเพิ่มเติม ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากและส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจ การตรวจสอบจากกรมสรรพากร การยื่นภาษีล่าช้าบ่อยครั้งอาจดึงดูดความสนใจจากกรมสรรพากร ทำให้กิจการของคุณอาจถูกเรียกตรวจสอบบัญชีและเอกสารต่างๆ ซึ่งสร้างภาระและเสียเวลาในการดำเนินธุรกิจ  ทั้งนี้ หากไม่ดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว อาจนำไปสู่การถูกตรวจสอบจากกรมสรรพากร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประวัติทางภาษีและความน่าเชื่อถือของธุรกิจของคุณได้ในระยะยาว   

ขั้นตอนการยื่นภาษีล่าช้าและยื่นย้อนหลัง


หากกิจการของคุณลืมยื่นภาษี และต้องการแก้ไขให้ถูกต้อง คุณในฐานะเจ้าของธุรกิจต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้     

1....

read more

e-tax invoice คืออะไร อ่านต่อ

e-Tax Invoice คืออะไร? ไขข้อสงสัยใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกิจยุคใหม่

กันยายน 19, 2025

  ในยุคที่การดำเนินธุรกิจต้องอาศัยความรวดเร็ว โปร่งใสและประหยัดต้นทุน การเปลี่ยนผ่านจากเอกสารกระดาษสู่ระบบดิจิทัลจึงกลายเป็นก้าวสำคัญที่หลายองค์กรไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะเรื่องของใบกำกับภาษีที่เป็นเอกสารสำคัญทางบัญชีและภาษี ปัจจุบันกรมสรรพากรได้ผลักดันให้ใช้ e-Tax Invoice หรือใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการภาษี ลดขั้นตอนเอกสารและอำนวยความสะดวกทั้งแก่ผู้ขายและผู้ซื้อ ซึ่งในบทความนี้ Ditto จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และธุรกิจจะได้ประโยชน์อะไรจากการใช้งานระบบนี้บ้าง  

ทำความรู้จัก e-Tax Invoice และ e-Receipt

ก่อนจะเจาะลึกถึงประโยชน์และวิธีการใช้งาน ลองมาทำความเข้าใจพื้นฐานของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสองประเภทนี้กัน    

e-Tax Invoice คืออะไร?

e-Tax Invoice หรือใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ คือเอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งออกในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายกำหนด แทนการใช้ใบกำกับภาษีแบบกระดาษ โดยข้อมูลจะถูกสร้าง จัดทำ นำส่งและจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล ทำให้กระบวนการต่าง ๆ สะดวก รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น    

e-Receipt คืออะไร?

e-Receipt หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ คือเอกสารที่ใช้เป็นหลักฐานการรับเงินหรือการให้บริการ ซึ่งออกในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เช่นเดียวกับ e-Tax Invoice เหมาะสำหรับธุรกิจที่ไม่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือธุรกิจที่ต้องการออกใบรับให้กับลูกค้า เพื่อเป็นหลักฐานการชำระเงิน   

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง e-Tax Invoice และใบกำกับภาษีแบบกระดาษ  

  คุณสมบัติ e-Tax Invoice ใบกำกับภาษีแบบกระดาษ รูปแบบ  ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์  เอกสารกระดาษ  การจัดส่ง  ส่งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น... read more

ใบกำกับภาษี คืออะไร อ่านต่อ

ใบกำกับภาษี มีกี่แบบ? เจาะลึกความต่างแบบเต็ม vs อย่างย่อ สำหรับเจ้าของกิจการ

กันยายน 12, 2025

สำหรับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เอกสารที่ชื่อว่า ใบกำกับภาษี ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะไม่เพียงแต่เป็นหลักฐานการซื้อขายสินค้าหรือบริการ แต่ยังเป็นเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรมสรรพากร การทำความเข้าใจว่าเอกสารนี้ คืออะไร จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายอย่างแน่นอน    

ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คืออะไร? 

ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คือเอกสารสำคัญที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ผู้ขาย) มีหน้าที่ต้องออกให้กับผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการทุกครั้งที่มีการซื้อขาย เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้าหรือบริการ และจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ผู้ประกอบการได้เรียกเก็บจากผู้ซื้อในครั้งนั้น ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นเอกสารที่มีความสำคัญ ทั้งต่อฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อ สำหรับผู้ขาย จะใช้เป็นหลักฐานในการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีขาย) ให้แก่กรมสรรพากร ในขณะที่ฝั่งผู้ซื้อ (ที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนเช่นกัน) จะใช้เป็นหลักฐานในการขอหักภาษี (ภาษีซื้อ) ออกจากภาษีขายของตนเอง ซึ่งช่วยลดภาระภาษีของกิจการได้  

ใบกำกับภาษี มีกี่ประเภท? 

ตามประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรได้กำหนดรูปแบบของใบกำกับภาษีไว้หลายลักษณะ แต่ประเภทหลัก ๆ ที่คนทำธุรกิจต้องรู้จักและใช้งานเป็นประจำมี 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่      

1. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป (มาตรา 86/4) 

ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป คือ บกำกับภาษีรูปแบบมาตรฐานที่มีรายการครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน... read more