ทุกวันที่ 5 มิถุนายน ถือเป็น วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) ที่องค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) กำหนดขึ้น เพื่อเน้นย้ำถึงวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง พร้อมมุ่งหวังให้เกิดความตระหนักและร่วมมือกันแก้ไขปัญหานั้น
โดยในปีนี้ได้ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นเจ้าภาพ มีประเด็นหลักในการรณรงค์ คือ Land Restoration, Desertification and Drought Resilience ภายใต้แนวคิด Our land. Our future. We are #GenerationRestoration. “พลิกฟื้นผืนดิน สู้วิกฤตภัยแล้ง” มุ่งเน้นในเรื่องการฟื้นฟูที่ดินที่เสื่อมโทรม และการแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ปัญหาสำคัญตามที่ได้มีการประชุมและวิเคราะห์สถานการณ์โลกในอนาคต ที่นับเป็นปัญหาอันดับ 1 ของหลายประเทศคือ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ทุกวันนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นปัญหาระดับโลกที่อยู่เหนือการควบคุม ส่งผลให้เกิดความเสียหายขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น น้ำท่วมในพื้นที่ที่ไม่เคยท่วม ฝนไม่ตกตามฤดูกาล น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศร้อนและแห้งแล้งทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง
ดิทโต้ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิกฤติการณ์ Climate Change จึงมีความตั้งใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาและสร้างผลกระทบเชิงบวก ควบคู่ไปกับการเติบโตและความยั่งยืนของทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการเข้าร่วมโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อการมีส่วนร่วมที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง พร้อมการสนับสนุนชุมชนป่าชายเลนในด้านงบประมาณและเทคโนโลยีในการบริหารจัดการ ให้ชาวบ้านมีกำลังใจช่วยกันดูแลรักษาป่าให้มีความสมบูรณ์มากกว่าที่เป็น
#Ditto #DittoTH #DittoThailand #WorldEnvironmentDay #Decarbonization #GreenTech #ClimateTechnology #NetZero #ClimateChange