ยิ่งเศรษฐกิจโลกมีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาลมากขึ้นเท่านั้น และเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งทางดิน น้ำ อากาศ ซึ่งทั่วโลกต่างรับรู้ถึงปัญหาและต้องการแก้ไขก่อนที่จะสายเกินแก้ จึงผลักดันให้เกิดแนวคิดที่น่าสนใจอย่าง “Green Economy” ที่สร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม
และแนวคิดนี้ยังถูกนำมาปรับใช้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้วย เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า Green Economy คืออะไร? มีความสำคัญกับประเทศไทยอย่างไร? มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษกิจพร้อมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมได้จริงรือไม่? บทความนี้มีคำตอบ
Green Economy คืออะไร
โดยนิยามที่ครอบคลุม Green Economy ที่สุด เป็นนิยามของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme หรือ UNEP) ที่นิยามว่า “เศรษฐกิจสีเขียว” หรือ “Green Economy” คือ ระบบเศรษฐกิจที่มีจุดมุ่งหมายในการปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการและยกระดับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้ดีขึ้น โดยลดการใช้ทรัพยากร ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งยังคงคำนึงถึงหลักการและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
Green Economy มีความสำคัญอย่างไร
เราคงรู้แล้วว่า Green Economy คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร แต่นอกจากที่ได้กล่าวไป เศรษฐกิจสีเขียวยังช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Climate Change ด้วยการร่วมมือกันขององค์กรระดับนานาชาติ และกำหนดนโยบายร่วมกัน อย่างนโยบายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neautral)
จุดประสงค์หลักของ Green Economy คืออะไร
- สนับสนุนแนวทางเศรษฐศาสตร์มหภาคเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับชาติ
- สร้างแนวทางต่าง ๆ ในการทำ Green Economy โดยมุ่งเน้นไปที่การเงินสีเขียว (Green Finance) และเทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology)
- สนับสนุนประเทศในด้านการพัฒนาและบูรณาการนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
ประเทศไทยกับ Green Economy
ประเทศไทยกำลังมุ่งพัฒนาระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเพื่อให้ประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การเลือกใช้ Green Economy คือแนวคิดที่เหมาะกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีรากฐานด้านการเกษตรเป็นทุนเดิม จึงใช้ Green Economy ในการเพาะปลูกด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม ลดการใช้สารเคมีที่มากเกินความจำเป็น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและหันมาใช้พลังงานทดแทน ซึ่งนอกจากจะช่วยอนุรักษ์โลกได้ตามเป้าหมายของแนวคิด Green Economy แล้ว ยังช่วยให้ประเทศไทยมีความแข็งแรงทางธุรกิจ สามารถส่งออกสินค้าเกษตรกรรมได้อีกด้วย
จากการมุ่งพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้สมดุลกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม รัฐบาลไทยจึงกำหนดให้ “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” เป็น ‘วาระแห่งชาติ’ ที่จะพาไทยไปสู่เป้าหมายของการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โมเดลเศรษฐกิจ BCG คืออะไร
โมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือ Bio-Circular-Green Economy คือ การพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนพร้อมกัน 3 เสาหลัก ได้แก่
- เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรชีวภาพ
- เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน
- เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) พัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น BCG Model จึงเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ได้มีเป้าหมายแค่การเติบโต แต่ต้องสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ประโยชน์ของ Green Economy
การนำแนวคิด Green Economy มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ จะช่วยให้เกิดประโยชน์ดังนี้:
- สร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม
- ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
- ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน
- สร้างอาชีพและรายได้ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สรุป Green Economy
โดยสรุปแล้ว Green Economy คือแนวคิดที่เข้ามาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม พร้อมกับพัฒนาเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงยกระดับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้ดีขึ้น การมีระบบเศรษฐกิจที่รักษาสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดปัญหามลพิษต่าง ๆ ลดปัญหาโลกร้อน และช่วยให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงชีพได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้ Green Economy คือกลยุทธ์ที่เหมาะกับประเทศไทยนั่นเอง
และในฐานะองค์กรก็สามารถใช้แนวคิด Green Economy ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green & Climate Technology) ที่ได้แนวคิดจากการนำองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี สร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ติดต่อสอบถามข้อมูลระบบจัดการเอกสาร เพิ่มเติม
📞 02-517-555
📱063 204 0321
Line ID: @dittothailand